พอลลีน่า เคดี


พอลลีน่า เคดี (s201)
เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้คัดสรรพืชหรือสมุนไพรต่าง ๆ ที่มีสาร
 Phytonutrients มากที่สุดและจัดได้ว่าเป็นสุดยอดสมุนไพร มาเป็นส่วนประกอบที่จะให้ประโยชน์
โดยรวม ดังนี้
- ช่วยเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง
- ช่วยเสริมสมรรถภาพทุกด้านให้แข็งแรง

- ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อเชื้อโรคและสารพิษ
- ทำให้กระฉับกระเฉง อดทน และมีสมาธิในการทำงาน
- ทำให้คุณสวยจากภายใน ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สดใสดูดีอยู่เสมอ แม้กาลเวลาจะล่วงเลยผ่านไป
Phytonutrients & Phytochemicals คืออะไร?
" Phytonutrient " หมายถึงสารประกอบอินทรีย์ที่พืชสังเคราะห์ขึ้นและเก็บสะสมไว้ที่ส่วนต่างๆ แต่ไม่ได้หมายถึง สารอาหารพวกคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน วิตามิน หรือเกลือแร่
" Phytonutrient " เป็นสารประกอบที่ให้ผลดีต่อสุขภาพของคนเรา ซึ่งบางทีก็เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "Phytochemical "
Phytonutrients ได้แก่สารกลุ่มใดบ้าง ?

  • แคโรทีนอยด์ ( Carotenoids )
  • โปลีฟีนอล : ฟลาโวนอยด์ ( Polyphenols : Flavonoids )
  • อิโนซิทอล ฟอสเฟต : ไฟเตท ( Inositol Phosphates : Phytates )
  • ลิกนิน : ไฟโตเอสโตรเจน ( Lignans : Phytoestrogens )
  • ธโอไซยาเนตและอินโดล ( Isothiocyanates and Indoles )
  • ฟีนอลและไซคลิก คอมปาวน์ด ( Phenols and Cyclic Compounds )
  • ซาโปนิน ( Saponins )
  • ซัลไฟด์และไธโอน ( Sulfides and Thiolds )
  • เทอปีน ( Terpenes )
  • ใยอาหาร ( Dietary fiber )
Phytonutrients มีประโยชน์อย่างไร?
  1. ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่
  2. ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
  3. ช่วยให้นอนหลับและคลายเครียด
  4. ช่วยป้องกันและรักษาโรคมะเร็ง
  5. ช่วยซ่อมแซม DNA ที่ถูกทำลายจากสารพิษ บุหรี่ แอลกอฮอล์
  6. รักษาสมดุลย์ของโฮร์โมนและเอ็นไซม์
  7. ช่วยปกป้องหัวใจและระบบไหลเวียนของโลหิต
  8. ช่วยรักษาความยืดหยุ่นและความชุุ่มชื้นของผิวพรรณ
  9. ช่วยเพิ่มสมรรถาพทางร่างกายและทางเพศ
Phytonutrients ร่างกายได้รับเพียงพอหรือไม่? ร่างกายจะได้รับ จากการบริโภคอาหารพวกผักและผลไม้ ซึ่งควรต้องมีการค้นค้วาเพิ่มเติมว่าผักหรือผลไม้ชนิดใดมีสารสังเคราะห์ใดเป็นพิเศษและต้องใส่ใจบริโภคเป็นประจำอย่างต่อเนื่องและมีปริมาณมากพอจึงจะส่งผลดีต่อสุขภาพยิ่งๆขึ้นไป แต่ในยุคที่ต้องแข่งกับเวลานี้พบว่าเราไม่สามารถได้รับสาร Phytonutrients อย่างเพียงพอจากอาหารปกติประจำวันของเราเพียงอย่างเดียว
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับทุกคน นอกเหนือจากการรับประทานอาหารตามปกติของตนเอง

พอลลีน่าเคดี
ส่วนประกอบที่สำคัญ
ปัญจขันธ์ ( Gynostemma Pentaphyllum)
ชื่อภาษาอังกฤษ Miracle grass (หญ้ามหัศจรรย์) ชื่อจีน คือ เจียวกูหลานหรือเซียนเฉ่า ( หญ้าอมตะ) ในปัญจขันธ์มีสาร จิปพีโนไซด์ (Gypenoside) มากกว่า 80 ชนิด บางชนิดเหมือนที่พบในโสม จึงมีสรรพคุณคล้ายโสมดังนี้
  • มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ทำให้กระชุ่มกระชวยและฟื้นฟูความเป็นหนุ่มสาว
  • ป้องกันผิวไม่ให้ถูกทำลายจากรังสี UV
  • Adaptogenic herb มีฤทธิ์แรงมาก
  • ช่วยลดความดันเลือด
  • ลดไตรกลีเซอร์ และคลอเรสเตอรอลชนิดเลว แต่เพิ่มชนิดดี
  • ทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจได้สะดวก จึงช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ
  • ยับยั้งการเกาะตัวกันของเกร็ดเลือด ป้องกันและรักษาหลอดเลือดแข็งตัว
  • ช่วยลดน้ำหนัก เร่งการเผาผลาญอาหาร ขัดขวางการเปลี่ยนน้ำตาลไปเป็นไขมัน
  • เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ โดยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดบริเวณอัณฑะ
  • ป้องกันตับจากสารพิษ และต้านการอักเสบในโรคกระเพาะ หลอดลมอักเสบ
  • เพิ่มการหลั่งอินซูลินทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง ( สารซาโปนิน ชื่อฟาโนไซด์ที่มีฤทธิ์กระตุ้นการหลั่งซูลิน)
  • เสริมภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น ช่วยให้ผู้ป่วยที่ทำเคมีบำบัดรู้สึกดีขึ้น
  • ช่วยให้นอนหลับคลายความวิตกกังวล แต่กระตุ้นผู้ที่ซึมเศร้าให้สดชื่นขึ้น
โสมเกาหลี ( โสมคน ) (Panax ginseng)
"โสมเกาหลี" จัดเป็นสุดยอดสมุนไพร สาร ginsenosides มีฤทธิ์เป็นAdaptogen คือทำให้ร่างกายสามารถทนต่อแรงกดดันจากสภาวะภายนอกได้ดีขึ้น
โสมมีสรรพคุณดังนี้
  • บำรุงร่างกายและอวัยวะต่าง ๆ เช่น ตับ ไต หัวใจ ม้าม ปอด ทำให้ร่างกายแข็งแรงเสมือนมีเกราะป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ
  • บำรุงโลหิต ปรับความดันเลือด และระดับน้ำตาลในเลือดให้ปกติ
  • บำรุงประสาท เพิ่มสมาธิ ความจำ และความสามารถในการเรียนรู้
  • บรรเทาอาการเครียด ซึมเศร้า นอนไม่หลับ เป็นการสกัดกั้นโรคหรือความเจ็บป่วยที่มีสาเหตุจากความเครียด
  • ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศทั้งในหญิงและชาย
  • ช่วยบรรเทาอาการข้างเคียงจากเคมีบำบัดและรังสีบำบัด
  • ช่วยชะลอความแก่เป็นอายุวัฒนะ
แปะเจียก (Paeonia Iactitlora) มีสารชื่อ Paeoniflorin ซึ่ง
มีสรรพคุณ
  • แก้ปวด ลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ จึงใช้ร่วมกับสมุนไพรอื่นๆเพื่อบรรเทาอาการปวดประจำเดือน ปวดท้อง ปวดศรีษะ
  • ช่วยบำรุงโลหิต ลดความดัน ฟอกเลือด
  • ห้ามเลือดจากบาดแผล
  • แก้ประจำเดือนมามากเกินไป
ตี้อึ้ง/เส็กตี่(Rehmannia glutinosa)
รากของตีอึ้งเมื่อผ่านกรรมวิธีการนึ่งหรือตากแดด จะมีสีดำที่เรียกว่า " เส็กตี่ " สารสำคัญ rehmaglutin
มีสรรพคุณ คือ
  • บำรุงไต
  • บำรุงไขกระดูก
  • บำรุงทางเพศ
  • ช่วยให้ผมดำสลวย
  • ใช้บำบัดโรคประสาทอ่อน ฝันเปียก อาการหลั่งเร็วในผู้ชาย
  • อาการอ่อนล้า โลหิตจาง วิงเวียน
  • หอบ หายใจลำบาก
  • สตรีมีประจำเดือนมาไม่ตรงกำหนด เลือดประจำเดือนมีสีจาง ประจำเดือนมาไม่ปกติ
ปัคคี้ (Astragalus membranaceus)
ปัคคี้หรืออึ้งคี้ มีสารสำคัญคือ Astragaloside
มีสรรพคุณคือ
  • บำรุงร่างกาย บำรุงโลหิต บำรุงหัวใจ
  • บำรุงปอดและม้าม
  • เสริมภูมิต้านทานโรค
  • ลดความดัน ขับปัสสาวะ แก้อาการบวมน้ำ
  • ลดอาการแก้อาการเหงื่อออกมาก
  • ช่วยทำให้แผล ฝี หนอง ที่ผิวหนังหายเร็วขึ้น
  • บรรเทาอาการข้างเคียงจากเคมีและรังสีบำบัด
ชะเอม (Glycyrrhiza glabra) รากชะเอมมีรสหวาน
มีสรรพคุณ
  • แก้ไอ ขับเสมหะ ทำให้ชุ่มคอ แก้น้ำลายเหนียว
  • บำรุงปอด
  • แก้อาการเกร็ง
  • แก้ปวดท้อง
  • ช่วยสงบประสาท ลดความเครียด
  • รักษาแผลในกระเพาะอาหาร
  • ช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมน
  • ช่วยตับกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย
เก๋ากี้ (Lcium barbarum)
มีสรรพคุณ
  • บำรุงร่างกาย บำรุงโลหิต
  • บำรุงสายตา
  • เสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศ
  • ลดน้ำตาลในเลือด
  • ปรับความดัน ลดไขมัน
  • กล่อมประสาทให้หลับสบาย
  • ใช้รักษาอาการสายตาเสื่อม ตาบอดกลางคืน
  • ปวดหลัง ปวดเอว
  • ใช้รักษาโรคเบาหวานได้ผลดีมาก
  • มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่
ตังเซียม (Codonopsis pilosula) รากตังเซียม
มีสรรพคุณ
  • ช่วยปรับการทำงานของกระเพาะอาหาร ปอดและม้ามให้ดีขึ้น
  • ช่วยบำรุงเลือดลม ลดความดันโลหิต
  • เพิ่มภูมิคุ้มกัน
  • ใช้ในผู้ที่มีอาการหายใจลำบาก หน้าซีด กลัวลม
  • มีเหงื่อออกมากอันเกิดจากสมรรถภาพการทำงานของปอดเสื่อมลง
  • นอกจากนี้ยังเป็นสมุนไพรที่ปลอดภัยจึงใช้บำรุงผู้หญิงที่ตั้งครรภ์และให้นมบุตรได้ดี
พุทราจีน (Zizyphus jujube) เป็นผลไม้ที่
มีสรรพคุณ
  • ทำให้นอนหลับง่าย
  • ช่วยขับปัสสาวะ
  • ช่วยเสริมฤทธิ์ให้กับสมุนไพรตัวอื่นๆ
  • ทำหน้าที่ประสานฤทธิ์ของสมุนไพรในตำรับให้เข้ากัน
เห็ดหลินจือ (Ganoderma lucidum)
เห็ดหลินจือ เป็นยาอายุวัฒนะเชื่อว่าทำให้ผู้บริโภคมีอายุยืนยาว
มีสรรพคุณ
  • บำรุงร่างกาย
  • เพิ่มภูมิคุ้มกัน
  • ลดน้ำตาลในเลือด
  • ใช้รักษาโรคภูมิแพ้ โรคความดัน โรคกระเพาะ โรคเส้นเลือดอุดตัน โรคหลอดลม
  • ช่วยลดคลอเรสเตอรอล
  • ต่อต้านการเจริญเติบโตของเนื้องอก
โต่วต๋ง (Eucommia ulmoides) เปลือกโต่วต๋ง
มีสรรพคุณ
  • เสริมสร้างร่างกาย
  • บำรุงตับ บำรุงไต เส้นเอ็น บำรุงครรภ์
  • ลดความดันโลหิต
  • ลดคลอเรสเตอรอล
  • แก้ปวด เมื่อยเอวและข้อต่อต่างๆ ของร่างกาย
  • เพิ่มสมรรถภาพทางเพศจึงใช้บำบัดอาการกำลังวังชาถดถอย ฝันเปียก
  • ลดความเสี่ยงในการแท้งบุตร ได้ดีมาก
ซิซานดร้า (Schisandra chinensis)
ผลซิซานดร้าอุดมไปด้วยสารลิกนิน ชื่อ Schisandrins
มีสรรพคุณ
  • บำรุงธาตุทั้ง 5
  • บำรุงตับ ไต และปอด
  • ช่วยเพิ่มสมรรถภาพและความรู้สึกทางเพศทั้งในหญิงและชาย
  • เพิ่มการขับน้ำหล่อเลี้ยงในช่องคลอด
  • ช่วยตับกำจัดสารพิษ
  • เพิ่มสมาธิและความจำ
  • ช่วยปกป้องผิวจากลมและแสงแด
  • ช่วยฟอกเลือดให้สะอาด
การบริโภคซิซานดร้าอย่างต่อเนื่องจะทำให้ผิวสวย ขาวเรียบเนียน ดูอ่อนกว่าวัย
เมล็ดลูกซัด (Trigonella foenum-graecum)
มีสรรพคุณ
  • ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวาน
  • ช่วยลดคลอเรสเตอรอล
  • บำรุงไต บำรุงทางเพศ
  • แก้ปวดหลัง ปวดเอว
  • แก้อาการแน่นหน้าอก แน่นท้อง
กระชายดำ (Kaempferia parviflora)
มีสรรพคุณ คือ
  • บำรุงกำลัง
  • บำรุงฮอร์โมนเพศชาย เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ
  • แก้ปวดเมื่อย แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม
  • แก้ตกขาว แก้สตรีประจำเดือนมาไม่ปกติ
น้ำผึ้ง (Honey)
น้ำผึ้ง ประกอบด้วย กลูโคส ฟรุคโตส ซูโคส วิตามินบี แร่ธาต โปรตีน เอนไซม์ เป็นต้น
  • นำผึ้งเป็นยาบำรุงกำลัง
  • ช่วยย่อย ช่วยหล่อลื่นลำไส้
  • ขับปัสสาวะ
  • ใช้แต่งรสหวาน
ปริมาณสุทธิ 510 ml
ทะเบียน อย. 73-1-32023-1-0022
ขนาดรับประทาน รับประทานครั้งละ 15-30 ml วันละ 1-2 ครั้ง ก่อนอาหาร
วิธีรับประทาน อมไว้ในปาก-ใต้ลิ้นก่อนกลืน เพราะจะช่วยในการดูดซึมไปเลี้ยงสมองได้ดี
คำเตือน
1. เด็ก สตรีมีครรภ์ สตรีที่ให้นมบุตร ไม่ควรรับประทาน
2. ไม่ใช่อาหารสำหรับควบคุมน้ำหนัก

สีสันอาหาร...สีสันสุขภาพ ผักและผลไม้ที่มีสีที่แตกต่างกัน ย่อมมีสารสังเคราะห์ ( Phytonutrients หรือ Phytochemicals ) ที่ไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นเพื่อสุขภาพที่ดีและเป็นการป้องกันโรคร้ายที่เกิดจากการกินอาหารที่ไม่ถูกต้อง ( โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดัน ) เราจึงควรกินผักและผลไม้ให้หลากสีหลากชนิด ครบทั้ง 5 สีดังนี้
1. สีน้ำเงิน สีม่วง และสีแดง มีสารแอนโธไซยานิน ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ลดอัตราเสี่ยงของโรคหัวใจ เส้นเลือดอุดตันและชะลอความเสื่อมของดวงตา มีมากในกระหล่ำปลีสีม่วง ชมพู่แดง ถั่วแดง ถั่วดำ มะเขือม่วง องุ่นแดง แอปเปิ้ลแดง ลูกพรุน ลูกเกด บลูเบอรี่ สตรอเบอรี่ ฯลฯ
2. สีเขียว มีสารอาหารสำคัญอยู่หลายชนิด ได้แก่
คลอโรฟิลล์ ช่วยกระตุ้นเม็ดเลือดแดง กำจัดสารพิษ ป้องกันตับ ลดปัญหาเส้นเลือดหัวใจตีบตัน เส้นเลือดขอด เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ลดอาการภูมิแพ้ ป้องกันเซลล์เสื่อมก่อนวัย มีอยู่มากในสาหร่ายสไปรูลิน่า อัลฟัลฟ่า ผักโขม และผักใบเขียวอื่นๆ
เบต้าแคโรทีน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยดูแลรักษาผิวพรรณ ลดความเสี่ยงของมะเร็ง เพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน บำรุงรักษาตา มีมากใน บร็อกโคลี่ ผักบุ้ง คะน้า ตำลึง หน่อไม้ฝรั่ง ฯลฯ
ลูทีนและซีแซนทีน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคต้อกระจก และโรคศูนย์จอเสื่อมในผู้สูงอายุ มีอยู่มากในผักคะน้า ผักบุ้ง ผักโขม ผักปวยเล้ง แตงกวาทั้งเปลือก ถั่วแขก ถั่วลันเตา ฯลฯ
อินโดล ช่วยกระตุ้นการทำงานของตับให้สร้างเอนไซม์ออกมาต้านเซลล์มะเร็ง และเร่งการกำจัดฮอร์โมนเอสโตรเจนส่วนเกินจึงป้องกันการเกิดมะเร็งที่มดลูกและเต้านม อินโดลมีมากในผักวงศ์กะหล่ำ เช่น กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก บล็อกโคลี คะน้า หัวไชเท้า ฯลฯ
ฟลาโวนอยด์ ช่วยป้องกันไม่ให้คลอเรสเตอรอลจับกับผนังหลอดเลือด พบได้มากในไวน์แดง ชาเขียว หัวหอม ถั่วเหลือง ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวอย่างส้ม มะนาว ฯลฯ
3. สีขาว สีชา และน้ำตาล มีสารประกอบสำคัญหลายชนิด ได้แก่
อัลลิซิน มีฤทธิ์ต้านการเกิดเนื้องอกและมะเร็ง มีมากในกระเทียม ต้นกระเทียม หัวหอม กุ่ยช่าย ขึ้นฉ่าย เซเลอรี่ เห็ด ฯลฯ
ฟลาโวนอยด์ มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ลดการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง มีมากใน หัวหอมใหญ่ แอปเปิ้ล ต้นกระเทียม ฝรั่ง ชาขาว ชาเขียว ฯลฯ
ไอโซฟลาโวน มีฤทธิ์เป็นไฟโตเอสโตรเจน ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งที่เต้านม ลำไส้ใหญ่ และที่ต่อมลูกหมาก มีมากใน ถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง
แซนโทน มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ลดอาการปวดข้อเข่า ต้านเชื้อโรคหลายชนิด ช่วยรักษาระดับน้ำตาลและระบบภูมิคุ้มกัน พบมากในเนื้อสีขาวและเปลือกของผลมังคุด
เพ็กติน เป็นเส้นใยที่ละลายน้ำได้ สามารถจับกับน้ำตาลและค่อยๆปล่อยออกสู่กระแสเลือดอย่างช้าๆทำให้รู้สึกอิ่มหลังกิน ช่วยลดความอยากอาหาร จึงใช้เป็นอาหารควบคุมน้ำหนัก มีมากใน แอปเปิ้ล ฝรั่ง แก้วมังกร และผลไม้อื่นๆที่ทำแยมได้
นอกจากนี้ยังมีผลไม้สีขาว สีน้ำตาลอีกหลายชนิดที่ควรกินสลับสับเปลี่ยนไป ได้แก่ กล้วย สาลี่ พุทรา ลางสาด ลองกอง เงาะ ลิ้นจี่ ละมุด ลำไย ฯลฯ
4. สีเหลือง สีส้ม มีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด เช่น วิตามินซี แคโรทีนอยด์ และฟลาโวนอยด์ ซึ่งจะช่วยรักษาสุขภาพของหัวใจและหลอดเลือด บำรุงสายตา ทำให้มองเห็นในที่มืดได้ดี ลดความเสี่ยงการเป็นโรคต้อกระจกและโรคมะเร็ง มีมากใน แครอท มะละกอ ฟักทอง มะม่วงสุก ส้ม ขนุน แคนตาลูป เสาวรส ขมิ้นชัน ฯลฯ
5. สีแดง มี สารไลโคปีน ซึ่งเป็นกลุ่มแคโรทีนอยด์ ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่างๆ โดยเฉพาะเซลล์ผิวหนัง และช่วยลดไขมันในเลือด มีมากใน มะเขือเทศ กระเจี๊ยบแดง มะละกอ บีทรูท สตรอเบอรี่ เชอรี่ ฯลฯ
การกินผักผลไม้เป็นประจำทุกวันจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก แต่น่าเสียดายที่สาร phytonutrients เหล่านี้มักจะเหลือน้อยลงเมื่อผักผลไม้ถูกเก็บไว้นานและความร้อนจากการปรุงอาหารก็ทำให้สารที่แสนจะมีประโยชน์เหล่านี้สลายหายไปด้วยเหตุนี้เองผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหลายๆ ชนิดจึงได้รับความนิยมจากผู้บริโภคโดยเฉพาะชาวอเมริกันและชาวยุโรปที่ตื่นตัวกับเรื่องการดูแลสุขภาพเป็นอย่างมาก

ดูข้อมูลของบริษัท

ดูคลิปวีดีโอ สินค้า 1862
ทีมงานผู้นำคุณภาพ...
"รวมพลัง มุ่งมั่น สร้างฝันกับพอลลีน่า"
http://leaderteamok.blogspot.com/

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • Twitter
  • RSS

0 Response to "พอลลีน่า เคดี"